วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว (ห้วยโก๋น-น้ำเงิน)


จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว (ห้วยโก๋น-น้ำเงิน) อยู่ที่บ้านห้วยโก๋น ตำบลห้วยโก๋น ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 138 กิโลเมตร ได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2537 อยู่ตรงข้ามเมืองเงิน เขตเชียงฮ่อน-หงสา ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย- ประชาชนลาว เฉพาะวันเสาร์จะมีตลาดนัดการค้าชายแดนไทย – ลาว บริเวณจุดผ่านแดนถาวรห้วยโก๋น ตั้งแต่ตอนเช้าจนถึง 10.00 น. ประชาชนชาวไทยและลาวจะจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ประเภทผ้าทอ ของป่า ลูกต๋าว มาจำหน่าย ด่านห้วยโก๋น-น้ำเงิน ยังเป็นเส้นทางไปหลวงพระบาง เวียงจันทร์ สิบสองปันนา และคุนหมิงของจีนได้ด้วย
    สินค้าที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าด้านการเกษตร ข้าว พืชผัก หอม กระเทียม และของป่า ส่วนสินค้าจากประเทศไทย ที่สำคัญได้แก่ สิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง
    เนื่องจากด่านสากลห้วยโก๋น-น้ำเงิน มีความสำคัญในส่วนของการเป็นประตูการค้าและการทำธุรกิจที่สำคัญในการค้าขาย การแลกเปลี่ยนสินค้า การท่องเที่ยว และการติดต่อประสานงานระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงได้มีโครงการพัฒนาเส้นทางการคมนาคมจากเมืองเงิน แขวงไซยบูลี ถึงเมืองปากแบ่ง แขวงอุดมไซย ระยะทาง 53 กิโลเมตร งบประมาณ 840 ล้านบาท โดยความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2552 นอกจากด่านถาวรห้วยโก๋น-น้ำเงินแล้ว ช่องภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ก็ได้ยกฐานะขึ้นเป็นด่านถาวรนับเป็นด่านที่ 2 ที่ไทยยกระดับขึ้นที่ติดต่อกับ แขวงไซยะบูลีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว




ด่านชายแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
ด่านชายแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ฝั่งตรงข้ามคือเมืองเงิน สปป.ลาว
่น่าน-หลวงพระบาง     การ เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองน่านนั้น กล่าวกันจะต้องตั้งใจมาเพราะถ้าไม่มีกิจธุระใด หรือถ้าจะมาท่องเที่ยวโดยเฉพาะแล้วนั้น เมืองน่านแห่งนี้ ดูจะไกลเกินกว่าที่ใครจะเดินทางมาถึงได้โดยง่าย เพราะจังหวัดน่าน ไม่ได้เป็นเส้นทางผ่านเชื่อมไปจังหวัดอื่นใดหรืออีกทั้งเส้นทางมาน่านนั้น ต้องผ่านเส้นทางอันคดโค้งของขุนเขานับไม่ถ้วน และด้วยจังหวัดน่านมีชายแดนติดต่อกับประเทศลาว รวมเป็นระยะทาง 277 กม. ซึ่งมีด่านสากล 1 แห่งคือ ด่านบ้านห้วยโก๋น-เมืองเงิน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ปัจจุบันนี้ เส้นทางสายใหม่ เมืองเงิน-ปากห้วยแคน เป็นเส้นทางการจะผ่านแดนเข้าไปท่องเที่ยวยังประเทศลาว เพื่อไปยังเมืองมรดกโลกหลวงพระบางนั้น เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวอีกเส้นทางหนึ่ง
แม่ค้าลาวนำของป่ามาขาย กับเรือล่องแม่น้ำโขง น่านสู่หลวงพระบาง
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็น อำเภอเล็กๆ ของจังหวัดน่าน อยู่ติดชายแดนทางตอนเหนือสุดของจังหวัดน่าน มีความน่าสนใจตรงที่มีด่านชายแดนไทย - ลาว ห้วยโก๋น- น้ำเงิน ที่เปิดให้คนไทยและลาวติดต่อค้าขายกันได้ รวมถึงเป็นเส้นทางที่จะสามารถเดินทางออกไปยังหลวงพระบางของลาว หรือเมืองสิบสองปันนาของจีนได้อย่างสะดวก

ตลาดนัดชายแดนบ้านห้วยโก๋น อยู่บริเวณด่านผ่านแดนบ้านห้วยโก๋น ด่านตรงข้ามคือเมืองน้ำเงิน แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว อยู่ห่างจากเมืองน่าน 138 กิโลเมตร ตลาดนัดชายแดนห้วยโก๋นจะมีทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เวลาเช้าไปจนถึงประมาณใกล้เที่ยง สินค้าที่จำหน่าย ได้แก่ ผ้าทอลายน้ำไหลฝีมือชาวไทลื้อของเมืองเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ของป่า เป็นต้น ด่านชายแดนบ้านห้วยโก๋น อนุญาตให้ประชาชนไทย-ลาว เข้าออกด่านทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.

ด่านสากลน้ำเงิน
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา ตั้งแต่ด่านห้วยโก๋น-ด่านเมืองเงิน เปิดเป็นด่านสากลเรียบร้อยแล้วนั้น ด่านแห่งนี้ก็ได้เปิดขึ้นให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางผ่านเข้ามา โดยเฉพาะการข้ามไปเยือนดินแดนมรดกโลก หลวงพระบาง และรวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวในเขตแขวงไชยะบุรี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน เช่น เมืองเงิน เมืองหงสา สปป.ลาว ที่ยังคงความเป็นวิถีการดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย มีวัดวาเก่าแก่ให้เยี่ยมชม

ล่องเรือแม่น้ำโขง น่าน-หลวงพระบาง สำหรับการเดินทางสู่หลวงพระบาง ผ่านเส้นทางน่านนั้น เมื่อเทียบกับเส้นทางอื่นหรือด่านสากลด้วยกัน ด่านแห่งนี้จะมีระยะทางไปหลวงพระบางที่ใกล้ที่สุด ประมาณ 200 กิโลเมตร แบ่งเป็นสองช่วงคือ ทางรถยนต์และทางเรือ โดยทางรถยนต์จะเริ่มที่ จ.น่านไปสิ้นสุดที่ ท่าเรือปากห้วยแคน(เส้นทางสายใหม่) ส่วนทางเรือจะไปลงเรือที่ ปากห้วยแคน เลยจากท่านห้วยโก๋นไปประมาณ 45 กิโลเมตร จากนั้น ล่องเรือไปตามลำน้ำโขง ชมวิวทิวทัศน์ตระการตาสองฝั่งประมาณ 5 ชั่วโมง ก็เป็นอันถึงหลวงพระบาง

เส้นทางสายใหม่ ด่านห้วยโก๋น น่าน - ท่าเรือปากห้วยแคน สปป.ลาว
เส้นทางออฟโรด สู่หลวงพระบาง นอกจากนั้น สำหรับท่านผู้ชอบการผจญภัย ชอบการขับรถเที่ยว ก็สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวข้ามผ่านแดนไปเมืองต่างๆ ฝั่งลาว รวมไปทั้งยังเมืองหลวงพระบาง การเดินทางต้องผ่านไปยังตัวแขวงไชยะบุรี จากนั้นไปลงแพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำโขง แล้วขับเลียบแม่น้ำโขงและขุนเขาไปยังหลวงพระบางอีกทีหนึ่ง เส้นทางนี้นับเป็นเส้นทางออฟโรดเลยทีเดียว การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าจะไปเยือน

เที่ยวลาวใกล้ๆ เมืองน่าน เมืองเงิน-เมืองหงสา
เมืองเงิน เป็นเมืองหน้าด่านเมืองแรกของฝั่งลาว เป็นชุมชนชาวลื้อขนาดใหญ่ หรืออาจเรียก “ ไทยลื้อ” เมื่ออยู่ในเขตแดนไทย เป็นกลุ่มชาวไตดั้งเดิมในอาณาจักรสิบสองปันนา และว่ากันว่ากลุ่มชาวลื้อที่นี่ยังคงวัฒนธรรมชาวไตลื้อดั้งเดิมไว้ได้มากที่ สุดกลุ่มหนึ่ง ในเมืองเงิน นักท่องเที่ยวสามารถชมบ้านเรือน ชมผู้คน ชมศิลปะสถาปัตยกรรมชาวลื้อในวัดและชมวิถีชีวิตของชาวเมืองเงินชุมชน

ชายแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
เมืองหงสา มี ฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของแขวงไชยะบุรี เขตปกครองระดับจังหวัดของลาว ที่ครอบครองพื้นที่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงทางตอนเหนือทั้งหมด ในอดีตเมืองหงสาเคยเป็นเมืองเอกของแขวงไชยะบุรีมาก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่ ตั้งปัจจุบัน และเสี้ยวหนึ่งของความเป็นมาชาวเมืองหงสา มีจารึกไว้บนแผ่นศิลา ซึ่งพบที่วัดไตรภูมิ บ้านไชยบุรี ปากแม่น้ำสงคราม นครพนม ความเกี่ยวข้องกันคือ เมื่อปี พ.ศ. 2351 “ พญาหงสาวะดี” หรือ ท้าวหม้อ ได้นำผู้คนประมาณ 100 คนจากเมืองหงสา ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ตั้งอยู่เยื้องกันกับเมืองหลวงพระบางซึ่งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขง พญาหงสาวะดี ได้ล่องแม่น้ำลงมาทางใต้จนนถึงปากแม่น้ำสงคราม พบว่าเป็นที่ทำเลที่อุดมสมบูรณ์ จึงกลับไปนำผู้คนจากเมืองหงสามาอีก 500 คน และตั้งเมืองใหม่ขึ้นที่บริเวณปากแม่น้ำสงครามนี้ ใช้นามเมืองตามเดิมที่พวกเขาย้ายถิ่นฐานกันมาว่า “ ไชยบุรี” (ซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งที่ถูกตั้งอย่างเป็นทางการของเมืองหงสา)

ตลาดชายแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
ตัวเมืองหงสา ตั้งอยู่บริเวณที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร อยู่ริมลำน้ำแน ห่างจากแม่น้ำโขงบริเวณท่าช่วงประมาณ 25 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองไชยะบุรี 96 กิโลเมตร จากการที่อยู่ห่างจากแม่น้ำโขงและเส้นทางรถยนต์จากเมืองหลักนั้น ทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ในวันนี้เมืองหงสา ยังคงเงียบสงบในภาพของชุมชนที่ห่างไกลและแวดล้อมไปด้วยท้องทุ่งนาข้าว มีขุนเขารายรอบอยู่ห่างออกไป

วัดในเมืองหงสา สปป.ลาว เรียบง่ายแต่งดงามด้วยเอกลักษณ์
การเที่ยวเมืองหงสานั้น ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็พอจะมีอะไรให้เที่ยวชมอยู่บ้างสำคัญอยู่ที่ต้องก้าวย่างอย่างช้าๆ เรื่อยๆ ชมบ้านเรือน ผู้คน ท้องทุ่งนา ช้าง ม้า วัว ควาย ที่เมืองหงสานี้ ช้างยังคงเป็นเพื่อนคู่ชีวิต คู่กายในวิถีทำกินของชาวเมืองหงสาเพราะว่ามีช้างอยู่มากมาย และยังมีงานช้างเหมือนที่สุรินทร์ของไทย เวลามีงานช้างนั้น จะมีช้างมาชุมนุมกันประมาณเป็นพันๆ เชือก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเข้ามาขี่ช้างเที่ยวชมป่ากันเยอะหรือจะ แวะเวียนชมศิลปกรรมในวัดที่มีอยู่ 9 วัด ได้แก่ วัดสีบุนเฮือง (วัดสีบุญเรือง) วัดทุ่ง วัดดอนไซ วัดโพนไซ วัดนาสาน วัดจอมแจ้ง วัดดอนแก้ว วัดจำปา และวัดสีมุงคุน (วัดสีมงคล) และต้องไม่ลืมไปสักการะพระธาตุบนเนินเขาด้านเหนือของย่านตัวเมือง

น่าน...จึงเป็นเส้นทางในการเปิดประตูสู่หลวงพระบางและดินแดนอินโดจีนที่น่าควรมาเยี่ยมเยือน..

วิวสองข้างทาง ล่องแม่น้ำโขง น่าน - หลวงพระบาง
การทำเรื่องผ่านแดน น่าน-ลาว
1. ใช้หนังสือผ่านแดน (Passport) ประทับตราที่ฝั่งไทย (ห้วยโก๋น) และฝั่งลาว (น้ำเงิน) โดยสามารถเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในประเทศลาวได้ไม่เิกิน 30 วัน (อย่าลืมดูวันหมดอายุของหนังสือเดินทางให้เรียบร้อย)
2. ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว (ฺBorder Pass) สามารถทำบัตรผ่านแดนได้ที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติและศาลากลางจังหวัด น่าน ซึ่งต้องเตรียมหลักฐานในการทำบัตรผ่านแดนคือ รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2 ใบ การทำบัตรผ่านแดน สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ไม่เิกิน 3 วัน หรือ 2 คืน 3 วัน และไม่สามารถเดินทางไปยังแขวงอื่นๆ ได้
ระเบียบและค่าธรรมเนียมผ่านแดนที่ด่านไทย ค่าผ่านแดน 10 บาทต่อคน ค่ายานพาหนะ 4 ล้อ
ขึ้นไป คันละ 50 บาท คู่มือจดทะเบียนหรือหนังสือมอบอำนาจกรณีรถยืม หรือรถเช่า
ระเบียบและค่าธรรมเนียมผ่านแดนที่ด่านลาว ค่าแบบฟอร์มและค่าธรรมเนียม 60 บาท
ค่ายานพาหนะ 4 ล้อขึ้นไป เข้า สปป.ลาว คันละ 250 บาท และต้องทำประกันภัยรถกับ สปป.ลาว
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดน่าน : 117 ม. 4 ถ.น่าน-พะเยา ตำบลไชยสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน 55000 โทร. 054-711513 แฟกซ์ 054-711078

วิถีชีวิตริมฝั่งโขง ล่องแม่น้ำโขง น่าน - หลวงพระบาง
แผนที่ท่องเที่ยวล่องเรือแม่น้ำโขง น่าน-หลวงพระบาง











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น